เดอะร็อค ทุกวันนี้คงไม่มีใครรู้จักดเวนย์ จอห์นสันหรือที่แฟนๆ รู้จักในนามเดอะร็อค อดีตนักมวยปล้ำชื่อดังจากสมาคม WWE และดาราดังระดับฮอลลีวู้ดที่ได้แสดงภาพยนตร์ชื่อดังทั้ง Fast and Furious จะเป็นภาคต่อของเกมกระดานชื่อดังอย่าง Jumanji นั่นเอง ทว่าเส้นทางควาสำเร็จของเดอะร็อคนั้นกลับไม่ได้ง่ายอย่างที่หลายคนคิด เขาต้องฝ่าฝันอุปสรรคมากมายก่อนที่จะกลายเป็นดาวดังของโลกในปัจจุบัน
เดอะร็อค จอห์นสันกลายเป็นนักแสดงดาราฮอลลีวู้ดที่ได้เล่นภาพยนตร์ต่างๆ มากมาย
แม้ว่าเดอะร็อคจะเป็นลูกชายของนักมวยปล้ำชื่อดังอย่างร็อคกี้ จอห์นสันอดีตแชมป์แทคทีมของ WWE ก็ตาม แต่ด้วยความที่พ่อของเขาประสบปัญหาติดแอลกอฮอล์อย่างนักจนทำให้ชื่อเสียงตกต่ำลงไป แล้วในที่สุดเขาก็ถังแตกและหลังเงินติดตัวเพียงน้อยนิดหลังจากไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพนักอเมริกันฟุตบอล จนในที่สุดเขาได้เปลี่ยนเส้นทางอาชีพไปเป็นนักมวยปล้ำตามพ่อของเขา ก่อนที่จะได้เซ็นสัญญากับค่ายใหญ่ระดับโลกในปี 1996 นั่นเอง
หลังจากเซ็นสัญญาได้ไม่นานทางด้านร็อคกี้ มาร์เวียจะเปิดตัวกับสมาคมในรายการ Survivor Series แต่ด้วยบทบาทที่ไม่น่าสนใจทำให้ชื่อของร็อคกี้เป็นที่เกลียดชังของแฟนๆ จนคำว่า “ไปตายซะร็อคกี้” จึงกลายเป็นเสียงที่ผู้ชมคุ้นชินเสมอเมื่อเขาปรากฎตัว จากอุปสรรคนี้เองทำให้ดเวนย์เริ่มเปลี่ยนแปลงบทบาทกลายเป็นเดอะร็อค นักมวยปล้ำที่พูดจาหยิ่งยโสไม่สนใจคนดู ปากจัดดุด่า แต่ด้วยบทบาทนี้เองทำให้เขากลายเป็นที่น่าสนใจในวงการบันเทิง ก่อนที่จะมีโอกาสได้ไปรับเชิญในรายการชื่อดังอย่าง Saturday Night Live และเข้าสู่วงการภาพยนตร์เต็มตัวจากเรื่อง The Mummy Returns และ The Scorpion King นั่นเอง
ด้วยอุปสรรคต่างๆ นี้เองทำให้เดอะร็อคได้เปลี่ยนแปลงตัวเองจากนักกีฬาที่น่าผิดหวังจนกลายเป็นดาวเด่นไม่ว่าจะในฐานะนักมวยปล้ำหรือดาราฮอลลีวู้ดที่ได้เล่นภาพยนตร์ต่างๆ มากมาย จนกระทั่งในปี 2019 ชื่อของดเวนย์ เดอะร็อค จอห์นสันจะกลายเป็นนักแสดงที่มีค่าตัวสูงที่สุดในโลก โดยวัดจากรายได้การแสดงของเขาที่สูงถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว
ติดตามเว็บไซต์แนะนำหนังน่าดู
ข่าวสารหนังที่น่าสนใจภาพยนตร์ Buried สะเทือนขวัญ ที่ฉากอยู่ในโลงศพตลอดเรื่อง
